เที่ยว สเปน เป็นหนึ่งในประเทศในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรป และมีมาดริดเป็นเมืองหลวง หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะเป็นเมืองที่เหล่าแฟนฟุตบอลระดับตำนานของโลกและทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างบาร์เซโลน่า สเปนยังเป็นประเทศที่รู้จักกันทั่วโลก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 50 แห่งด้วย ภาษาราชการคือภาษาสเปนและภาษาท้องถิ่นคือภาษาสเปน วัฒนธรรมโบราณที่หลากหลาย เหมือนเทศกาลโยนมะเขือ เทศกาลสู้วัวกระทิงที่หลายคนอาจคุ้นเคย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย เช่น ชายหาดที่สวยงาม สถาปัตยกรรมโรมันโบราณ และช้อปปิ้งแฟชั่น
ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังกาหลิบบน ชายหาดเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีแสงแดดส่องถึง ความเงียบสงบของผู้แสวงบุญที่เข้าสู่ วิหาร Santiago de Compostela ในมุมมองเหล่านี้ คุณจะพบกับจิตวิญญาณของสเปน พรรณนาถึงประวัติศาสตร์อันยุ่งเหยิงของประเทศ วัฒนธรรมอันรุ่มรวยและความงามทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล
เที่ยว สเปน หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักรสเปนเป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่มีส่วนขยายขนาดใหญ่มากในยุโรป เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ มาดริด บาร์เซโลนา และสเปนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การสำรวจ ด้วยมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจาก UNESCO เป็นอันดับ 3 ของโลก ไปเที่ยวสเปนทั้งทีก็ไปชมความงามของประเทศนี้กัน ยังได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งมรดกโลกอีกด้วย สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวสเปน อย่าลืมเตรียมตัวเที่ยวให้พร้อมก่อนไปเที่ยวสเปนนะคะ
สเปนเป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่และติดต่อกับหลายประเทศ และยังมีเกาะเล็ก ๆ ใน ชายหาดเมดิเตอร์เรเนียน อีกหลายเกาะ ด้านเหนือเป็นภูเขาและล่อง ทำให้มีภูมิอากาศที่หลากหลายทางภาคเหนือมีลักษณะเป็นภูมิอากาศแบบชายฝั่งทะเล ในเขตอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวมาก ฤดูร้อน อากาศเย็นสบาย ฝนส่วนใหญ่ตกถึงตอนกลางถึงตอนล่าง อากาศค่อนข้างแห้งและร้อน ฤดูหนาวไม่หนาวมาก
ภาษาราชการของสเปนคือภาษาสเปน แต่ในประเทศสเปนยังมีภาษาอื่นๆ ที่ใช้อยู่ เช่น คาตาลัน กาลิเซีย บาสก์ อุคชิตา เป็นต้น ในเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว. สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันได้
วัวตัวใหญ่ผ้าสีแดงและชายหนุ่มนุ่งกางเกงรัดรูป ถุงเท้าสียกสูง เสื้อผ้าปักดิ้นทองประดับประดาสวยงามราวกับเจ้าชายในนิทานและลีลาโม่งแดง นี่จะต้องเป็นการแนะนำประเทศสเปนครั้งแรกของฉัน
España (สเปน) หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า Reino de España (ราชอาณาจักรสเปน) สเปนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรป มีพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศฝรั่งเศส ฝั่งซ้ายติดกับประเทศโปรตุเกส พื้นที่ของประเทศใหญ่เป็นอันดับที่ 51 ของโลกรองจากประเทศไทย
ใครชอบเที่ยวแนวสถาปัตยกรรมไปสเปนรับรองไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่เผยโฉมตามเมืองใหญ่ต่างๆ ถ้าใครชอบเที่ยวสถาปัตยกรรมแต่อยากอินกับธรรมชาติ สเปน ก็มีเหมือนกัน และถ้าใครชอบเที่ยวและเป็นแฟนของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง สเปน ก็ตอบโจทย์ครับ เรียกว่ามาเมืองนอกครบเครื่องเลยใช่ไหม ฟรีเบิร์ด ทราเวล แอนด์ ทัวร์ ชวนนั่งเครื่องบินท่องดินแดนกระทิง เที่ยว 7 เมืองสวยน่าเที่ยว
Madrid City (มาดริด) เชื่อว่าถ้าพูดถึงสาขานี้เมื่อไหร่ต้องนึกถึงทีมฟุตบอลระดับเทพอย่าง “เรอัล มาดริด” อย่างแน่นอน เพราะจริงๆ แล้วเมืองนี้ไม่ได้มีแค่ฟุตบอลเท่านั้น หากเป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสเปน สถานที่ท่องเที่ยวถูกบรรจุในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ แฟนบอล คนรักการช้อปปิ้งหรือคนรักศิลปะ เรียกได้ว่ามาสเปนทั้งทีไม่ได้ไปมาดริดจริงๆ
พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1738 เป็น สถาปัตยกรรมแบบบาโรก บนเนินเขาริมฝั่ง แม่น้ำมันซานาเรส ว่ากันว่าสร้างด้วยหินทั้งหลังเพื่อป้องกันไฟ ภายในพระราชวังมีขนาดใหญ่มาก มีห้องมากถึง 3,418 ห้อง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 50 ห้องเท่านั้น และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องฝากกล้องไว้ที่ล็อกเกอร์ด้านนอก ภายในพระราชวังแห่งนี้ตกแต่งอย่างสวยงาม ของตกแต่งข้างในเยอะมาก บางอย่างมาจากประเทศในแถบเอเชียของเรา
“ บาร์เซโลน่า ” ดินแดนแห่งสีสันแห่งฟุตบอล ที่หากเอ่ยชื่อคำว่า บาร์เซโลน่า ขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นหน้าที่ที่จะต้องคิดถึงทีมบาร์ซ่าทุกครั้ง นั่นเป็นเพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา
เมืองนี้เป็นที่ตั้งของ สโมสรฟุตบอล ชื่อดังอย่างบาร์เซโลนาหรือบาร์ซา บาร์เซโลนา เป็นเมืองที่สำคัญมาก และใหญ่เป็นอันดับสองในสเปน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถาปัตยกรรมที่จะทำให้คุณหลงใหล ไปเที่ยวสเปน คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาเยือนเมืองนี้เพราะเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อ
ออกแบบโดยสถาปนิก ชาวคาตาลัน อันตอนี กูเดีย ซากราดาแฟมีเลียเป็นผลงานศิลปะ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สอดคล้องกับสไตล์การออกแบบของ Gaudí ซึ่งมักสร้างผลงานแบบ Art Nouveau การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 1882 โดยมีแผนที่จะสร้างอาคารทั้งหมด 18 หลัง แต่ปัจจุบันยังไม่เสร็จ แม้ว่า Antoni Gaudí จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างมหาวิหารยังคงทำงานต่อไปตามสิ่งที่ Gaudí ทำไว้ และมีเป้าหมายให้เสร็จภายในปี 2000 ในปี 2026 จะเป็นวันครบรอบ 100 ปีการเสียชีวิตของ Gaudí เกาดีเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2469
และท่านคิดหรือไม่ว่าทั้ง ๆ ที่อาสนวิหารแห่งนี้สร้างมาเป็นร้อยปีแล้ว แต่ท่านไม่ได้ขออนุญาตสร้าง ในปี 2018 เมืองบาร์เซโลนาขอให้อาสนวิหารจ่ายค่าปรับ 36 ล้านยูโรพร้อมข้อตกลงระยะยาว สิบปีแม้อาสนวิหารยังไม่เสร็จ แต่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก UNESCO และมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากกว่า 20 ล้านคนต่อปี
สถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งในบาร์เซโลนา และอีกผลงานหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Antoni Gaudí ในปี 2005 Park Güell คือสวนสาธารณะที่แปลกตาซึ่งตกแต่งด้วยโมเสกที่สวยงามนับล้านชิ้น ตั้งอยู่บน เนินเขาเอล คาร์เมล (El Carmel) ใกล้เมือง บาร์เซโลน่า (Barcelona) หากคุณมีโอกาสปีนขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนี้ในยามค่ำคืน คุณจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามท่ามกลางวิวเมืองที่ทอดยาว
เมืองทางตอนใต้ของสเปนแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของจิตรกรชื่อก้องโลก Picasso หรือ Pablo Ruiz Picasso ผู้ซึ่งนิตยสาร Time ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดในศตวรรษที่ 20 อัลคาซาบาแห่งมาลาก้า, เอล กามินิโต้ เดล เรย์, รอนด้า
มาลากาเป็นจังหวัดในแคว้นอันดาลูเซียทางตอนใต้ของสเปน เป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่และค่อนข้างมีความสำคัญในแง่ของธุรกิจ เพราะมีท่าเรือพาณิชย์ เป็นท่าจอดเรือเดินทะเลและเรือยอร์ชท่องเที่ยว
ไม่กี่คนที่รู้ว่ามาลากาเป็นบ้านเกิดของ ปิกัสโซ จิตรกรเอกของโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแม้ว่าปิกัสโซจะเกิดและเติบโตที่นี่ แต่เขาย้ายไปทำงานที่อื่นจนมีผลงานโด่งดัง ในใจกลางเมืองมาลากามีพลาซ่าเดปิกัสโซที่มีรูปปั้นของจิตรกร และรอบๆ เป็นพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ และบ้านที่เขาอาศัยอยู่กับผลงานชิ้นสำคัญชิ้นแรกของเขา
ตามประวัติศาสตร์ มาลากา เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ค้นพบโดยชาวฟินีเซียน (ชาวฟินีเซียน) ต่อมาถูกยึดครองโดยชาวโรมัน หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน มาลากาจึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิมมัวร์ ก่อนจะกลับมาอยู่ในความครอบครองของอาณาจักรคริสต์อีกครั้ง ทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ บ้านเรือน โบสถ์และวิหาร มีรูปแบบผสมผสานระหว่างโรมัน แขก และคริสต์
บาเลนเซีย หรือ บาเลนเซีย (València) คือเมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ (Ciudad de las Artes y las Ciencias) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศสเปน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Turia เมืองนี้เต็มไปด้วยศิลปะ และวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลชื่อดังอีกด้วย สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองอยู่ที่เมืองเก่า ผู้มาเยือนบาเลนเซียไม่ควรพลาดสถานที่ต่างๆ เช่น Plaza Reina, วิหารวาเลนเซีย (Catedral de Valencia) หรือ อาสนวิหารซานตามาเรีย (St. Mary’s Catedral de Valencia) ที่สร้างขึ้นในปี 1238, Diocesan Cathedral Museum และ Chapel of ถ้วยศักดิ์สิทธิ์ ตลาดกลางบาเลนเซีย Torres de Serranos
Toledo เป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน ตั้งอยู่ใจกลางประเทศและห่างจากกรุงมาดริดไปทางใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของประเทศสเปน และยังเป็นการผสมผสานระหว่าง 3 วัฒนธรรม คือ คริสต์ อิสลาม และฮิบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่าง ล้อมรอบด้วย แม่น้ำทากัส ที่ตั้งของเมืองมีทั้งหน้าผาสูง และมีแม่น้ำล้อมรอบถือเป็นปราการอันเหมาะสมในการป้องกันการรุกรานของข้าศึก ในปี พ.ศ. 2104 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน (Philip II of Spain) มีการย้ายเมืองหลวงจากโทเลโดไปยังมาดริด สถานที่ท่องเที่ยวของโทเลโดกระจุกตัวอยู่ในเมืองเก่าในระยะที่เดินได้ อาจมีเพียงวิวเดียวของเมืองที่ต้องใช้ยานพาหนะในการเดินทาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเมืองโทเลโดไม่ควรพลาด
เซบียา หรือ เซบีญา เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของสเปนและเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย เซบียาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสวนสาธารณะสีเขียว สวนดอกไม้ และสถาปัตยกรรม สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังกระจุกตัวอยู่ในเขตเมืองเก่า ความสำคัญ และความนิยมของเซบียาที่ทุกคนต้องตะโกน เพราะ เซบียาเป็นแหล่งกำเนิดของระบำฟลาเมงโก (Flamenco) ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสนามกระทิง Real Maestranza ที่มีชื่อเสียงของกองทหารม้าเซบียาอีกด้วย
“เซบียา” หนึ่งในจังหวัดสำคัญแห่งแคว้นอันตาลูเซียที่เรียกได้ว่าจุดเด่นของสเปนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเชอรี่ วัวกระทิง หรือระบำฟลามิงโก รวมอยู่ด้วยกันที่นี่ ด้วยภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่เหมาะสมทำให้กลุ่มคนที่ถือว่ามีอารยธรรมสูงหลายกลุ่มผลัดกันเข้ามาครอบครองเซบียาอย่างต่อเนื่องทั้งจากแอฟริกา จากโรมัน วิสิโโกธ อาหรับจนถึงสมัยพระนางอิซซาเบลล่าที่ 1 กับพระเจ้าเฟอร์ดินานยกทัพมาตีและได้ครอบครองเซบียาในปี ค.ศ. 1448ดังนั้นสิ่งที่หลงเหลือจากที่เหล่าผู้ปกครองแต่ละยุคสมัยทิ้งไว้คือ การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ทั้งจากโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวิทยาสาขาต่าง ๆ
หลังการค้นพบโลกใหม่ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ภายใต้การสนับสนุนของพระนางอิซซาเบลล่าที่ 1 และพระเจ้าเฟอร์ดินานการค้าขายกับโลกใหม่ทำให้เซบีย่ากลายเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าที่ส่งไปขายในโลกใหม่ เช่น เหล้าองุ่น เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯแม้ไม่ได้ผลิตในสเปน แต่ก็ต้องส่งผ่านท่าเรือที่เซบีย่าแล้วเปลี่ยนเป็นโลหะสำคัญกลับมา ทองคำ และด้วยเหตุนี้เองพ่อค้าผู้มั่งคั่งจึงสร้างคฤหาสน์หรูและทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความมั่งคั่งมาถึงปัจจุบันเมื่อโคลัมบัส กลายเป็นบุคคลสำคัญของเซบีย่าเช่นนี้หีบศพของเขาจึงได้รับเกียรติยศอย่างสูงให้ตั้งไว้ในมหาวิหารแห่งนี้
ลักษณะ สถาปัตยกรรม เป็นรูปครึ่งวงกลมเรียงเป็นแนวยาว แต่ละซุ้มมี ตราประจำจังหวัดตามลำดับอักษร ฝั่งตรงข้ามถนนคือ Parque María Luisa (หรือที่เรียกว่า Parque de María Luisa) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพันธุ์ไม้ที่สวยงาม และความโรแมนติกที่ซ่อนอยู่
และเมื่อมาถึงเมือง Seville แล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปชม Seville Cathedral ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี 1401 แล้วเสร็จในปี 1528 ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสุเหร่าและกลายมาเป็นโบสถ์ ภายในมีห้อง แสดงสิ่งของต่างๆ เช่น เครื่องใช้ เครื่องประดับ ภาพวาด และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ฝังศพของโคลัมบัสอีกด้วย และยังมีพิพิธภัณฑ์สู้วัวกระทิงในเมืองนี้ ถ้าคุณมีเวลา คุณสามารถเยี่ยมชมได้
กรานาดา (สเปน: Granada) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดกรานาดา ในเขตปกครองตนเองอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ตั้งอยู่บนเชิงเขาเซียร์ราเนวาดา ซึ่งแม่น้ำดาร์โรและเกนิล (Genil) มาบรรจบกันที่ระดับความสูง 738 ม. เหนือระดับน้ำทะเล.
จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2548 ประชากรที่แท้จริงของกรานาดาคือ 236,982 คน และพื้นที่เมืองทั้งหมดคือ 472,638 ทำให้เขตเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของราชอาณาจักรสเปน ประมาณร้อยละ 3.3 ของประชากรไม่มีสัญชาติสเปน และร้อยละ 31 ในจำนวนนี้มา จากอเมริกาใต้
ป้อมอาหรับและอาลัมบราอยู่ในกรานาดา เป็นหนึ่งในมรดกทางประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิม ชาวยิว และชาวคริสต์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของความสนใจในหมู่จุดหมายปลายทางทางวัฒนธรรมในสเปน
กรานาดา ยังเป็นที่รู้จักในสเปนสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดมหาวิทยาลัยกรานาดาอันทรงเกียรติ นอกจากสถานบันเทิงยามค่ำคืนแล้ว ยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็น 1 ใน 3 เมืองยอดนิยมสำหรับนักศึกษาอีกด้วย (อีกสองเมืองคือ Salamanca และ Santiago de Compostela)
เที่ยว สเปน Alhambra ตั้งอยู่บนเนินเขาและล้อมรอบด้วยพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ ในอดีตที่นี่เป็นป้อมปราการโรมันโบราณ ต่อมาได้กลายเป็นพระราชวัง Alhambra มาจากภาษาอารบิก แปลว่า วังแดง เนื่องจากป้อมปราการสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐ มองจากระยะไกลจึงมีสีแดง ที่นี่เป็นทั้งวังหลวง และป้อมปราการภายใน ได้แก่ ป้อมปราการ Alcazaba, พระราชวัง Alhambra
เที่ยวบาร์เซโลนา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสเปน และเป็นเมืองหลวงของ Catalonia เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีที่เที่ยวมากมาย มีสถาปัตยกรรมอย่าง La Sagrada
เมืองมาดริด สเปน (Madrid) เชื่อว่าหากเอ่ยถึงสาขานี้เมื่อไหร่ก็ต้องนึกถึงทีมฟุตบอลระดับเทพอย่าง “เรอัล มาดริด” อย่างแน่นอน เพราะจริงๆ แล้วเมืองนี้ไม่ได้มีแค่ฟุตบอลเท่านั้น หากเป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสเปน
มาลากาเป็นจังหวัดในแคว้นอันดาลูเซียทางตอนใต้ของสเปน และเป็นบ้านเกิดของปิกัสโซจิตรกรเอกของโลก สถานที่สำคัญของมาลากาคือปราสาท ‘ อัลคาซาบา ‘ (Alcazaba) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพระราชวังของชาวมัวร์ในศตวรรษที่ 11 ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินในตอนเย็น
อย่างเป็นทางการ ราชอาณาจักรสเปนเป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่มีส่วนขยายขนาดใหญ่มากในยุโรป เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ มาดริด บาร์เซโลนา และสเปนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การสำรวจ มีแหล่งมรดกโลก UNESCO ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก